ธรรมะสำหรับผู้ที่ "ทำได้แต่เสียเวลาเยอะจะไม่ทำ ไม่พยายาม" 
อาการที่คุณอธิบายมานั้น ในทางพุทธศาสนาจัดเป็นอาการที่แสดงออกถึง ความขี้เกียจ (โกสัชชะ) และ
การขาดความเพียรพยายาม (วิริยะ) ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาตนและบรรลุธรรม
อาการนี้สามารถพิจารณาเข้ากับหลักธรรมหลายข้อ โดยเฉพาะในกลุ่มของ อกุศลธรรม (ธรรมที่เป็นโทษ) และ นิวรณ์ (เครื่องกั้นจิตไม่ให้บรรลุความดี) ดังนี้:
1. ความขี้เกียจ (โกสัชชะ)
อาการที่คุณกล่าวถึง คือ "ทำได้แต่เสียเวลาเยอะจะไม่ทำ ไม่พยายาม" เป็นลักษณะตรงของความขี้เกียจ ซึ่งเป็นหนึ่งใน อุปกิเลส (เครื่องเศร้าหมอง) และเป็นอาการที่ตรงข้ามกับ ความเพียร (วิริยะ) ในมรรคมีองค์ 8
* คำอธิบาย: เป็นการผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ลงมือทำกิจที่ควรทำ หรือทำด้วยความท้อแท้ อ้างว่างานนั้นยาก ต้องใช้เวลามาก หรือไม่คุ้มค่าที่จะทำ (คือคิดว่าเสียเวลาเยอะ) ซึ่งเป็นการปล่อยปละละเลยโอกาสในการสร้างกุศล หรือพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น
2. นิวรณ์ 5: ถีนมิทธะ (ความท้อแท้และง่วงเหงา)
อาการไม่ยอมทำเพราะคิดว่า "เสียเวลาเยอะ" หรือ "ไม่พยายาม" มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ถีนมิทธะ อย่างมาก
* คำอธิบาย:
* ถีนะ (ความท้อแท้/หดหู่): คือความหดหู่ในจิต ทำให้หมดกำลังใจที่จะทำกิจการงานที่ดี หรือปฏิบัติธรรม คิดว่าทำไปก็คงไม่สำเร็จ หรือไม่คุ้มค่าที่จะทำ (ตรงกับคำว่า "ไม่พยายาม" และ "เสียเวลาเยอะ")
* มิทธะ (ความง่วงเหงา/เซื่องซึม): คือความไม่กระปรี้กระเปร่าทางกาย
>

วิบากกรรม: นิวรณ์ข้อนี้เป็น เครื่องกั้น ที่ใหญ่ที่สุดต่อการเจริญสมาธิและปัญญา การตกอยู่ใต้อำนาจของถีนมิทธะอยู่เสมอ ทำให้ชีวิตติดอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้า
>
3. อกุศลกรรมบถ (ทางแห่งกรรมชั่ว)
ในแง่ของวิบากกรรมที่สืบเนื่องมาจากนิสัยนี้ สามารถมองได้ว่าเป็นการขาดการสั่งสม กุศลกรรม (กรรมดี) ในข้อที่ว่าด้วย "วิริยะ" หรือความเพียร
* คำอธิบาย: การไม่ใช้ความพยายามในการทำกิจอันเป็นประโยชน์ในปัจจุบัน ถือเป็นการสั่งสม เชื้อแห่งความเฉื่อยชา เมื่อตายไปแล้ว หากได้เกิดเป็นมนุษย์อีก วิบากกรรม ที่ตามมาคือ:
* เป็นผู้ขาดความกระตือรือร้น: ไม่สามารถประกอบกิจการงานให้สำเร็จได้ง่าย
* ต้องเสียเวลามาก: แม้คิดจะทำอะไรก็มักจะช้ากว่าคนอื่น หรือต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว เพราะขาดกำลังแห่งความเพียรที่สั่งสมไว้
4. ปรโตโฆสะ (การฟังจากผู้อื่น)
การขาดความพยายามยังส่งผลต่อการรับธรรมะที่ดีได้ยาก เพราะเมื่อได้ยินได้ฟังธรรมะหรือคำแนะนำที่ดีแล้ว มักจะคิดว่า "ทำได้แต่เสียเวลาเยอะ" ทำให้ไม่ได้นำไปปฏิบัติจริง

สรุปและแนวทางแก้ไข
วิบากกรรมสำหรับคนขี้เกียจคือ: การไม่ได้ผลดีในชีวิตปัจจุบัน และการสะสมเชื้อแห่งความเฉื่อยชาไปในภพหน้า ทำให้ต้องเป็นผู้ที่ขาดกำลังใจและความเพียรในการทำความดีไปเรื่อยๆ
> แนวทางแก้ไข (ตรงข้ามกับวิบาก): คือการเจริญ อิทธิบาท 4 โดยเฉพาะข้อ วิริยะ (ความเพียร) และ ฉันทะ (ความพอใจที่จะทำ) รวมถึงการเจริญ สัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ) ในอริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อละอกุศลที่เกิดแล้ว ป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิด และสร้างกุศลให้เกิดและงอกงาม
>